จากข้อมูลข้างต้น ปกติร่างกายเราจะสามารถผลิต NAD+ ได้เอง แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้นก็จะลดลงอย่างแปรผกผันกัน ส่งผลต่อการทำงานของเซลล์ ก่อให้เกิดความเสื่อมในร่างกาย เกิดเป็นปัญหาสุขภาพต่างๆขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เร่งการเกิดความหย่อนคล้อยและริ้วรอยของผิวหนัง, รู้สึกเจ็บป่วยง่ายขึ้น, อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อจากการทำงานมากขึ้น, อ้วนง่ายขึ้นแม้จะรับประทานอาหารในปริมาณเท่าเดิม, หลงๆลืมๆ ความจำไม่ค่อยดี ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นผลมาจากการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งทำให้เกิดการเสื่อมลงเรื่อยๆของร่างกายเป็นธรรมดา NAD+ จึงเป็นตัวช่วยให้การทำงานของเซลล์มีประสิทธิภาพ นำไปสู่การมีสุขภาพที่ดี ชะลอวัย ให้อายุยืนยาวขึ้น
ดร.เดวิด ซินแคลร์ ศาสตราจารย์ภาควิชาพันธุศาสตร์ จากมหาวิทยาลัย Harvard, สหรัฐอเมริกา ค้นพบว่าเมื่อระดับ NAD+ ลดลงจะเป็นการเร่งกระบวนการความแก่ เพราะจะทำให้ไปปิดการทำงานของยีน Sirtuins(เซอร์ทูอิน) ซึ่งเป็นตัวคอยควบคุมความแก่ชรา ดังนั้นเราจำเป็นต้องมี NAD+ ที่มากเพียงพอต่อร่างกาย เพื่อช่วยเปิดการทำงานของยีน Sirtuins(เซอร์ทูอิน)ให้ดีขึ้น จะได้ชะลอวัย ยับยั้งความแก่นั่นเอง
1. เพิ่มความสามารถในการฟื้นตัวของเซลล์
2. เร่งการซ่อมแซมในระดับ DNA
3. ช่วยในเรื่องการเผาผลาญ
4. เพิ่มความยาวของ Telomere (เทโลเมียร์) ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องโครโมโซมไม่ให้ถูกทำลาย
5. เพิ่มความแข็งแรงให้โครโมโซม
6. เพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์ประสาท
7. กระตุ้นการทำงานของ Sirtuins (เซอร์ทูอิน) ยีนที่ทำหน้าที่หลายอย่างเพื่อให้อวัยวะสามารถมีชีวิตอยู่
8. เพิ่มความสามารถของเซลล์ภูมิต้านทาน