แผลเป็น
แผลเป็นเกิดจากกระบวนการหายของแผลที่เกิดขึ้นไม่สมบูรณ์ ซึ่งปัจจัยที่จะทำให้เกิดแผลเป็นนั้น ขึ้นกับสภาพผิว ตำแหน่งที่เกิดแผล ความลึกของแผล และวิธีการดูแลรักษาแผล
แผลเป็นมีหลายชนิด ดังนี้
แผลเป็นหลุมสิว
มักเกิดจากการที่สิวอักเสบมาก หรือสิวมีขนาดใหญ่ ดังนั้น หากพบว่าตนเองเป็นสิว ควรรีบทำการรักษา ไม่ควรปล่อยไว้นาน และควรงดแกะสิว เนื่องจากจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดหลุมสิวตามมา
วิธีการรักษา
- กระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นมาเติมเต็มหลุมนั้น โดยการทำเลเซอร์กลุ่ม Fractional laser
- ใช้เข็มเพื่อตัดพังผืดที่ดึงรั้งอยู่ใต้ชั้นผิวหนัง หรือที่เรียกว่า Subcision
แผลเป็นนูน
แผลเป็นที่เกิดตามรอยของแผล และนูนขึ้นจากผิวปกติ
วิธีการรักษา
- ฉีดยาเข้าบริเวณแผลเป็นเพื่อลดความนูนของแผล
- เลเซอร์เพื่อปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน โดยใช้เลเซอร์กลุ่ม YAG หรือ Fractional Laser
- ทายาลดรอยแผลเป็น
แผลเป็นคีลอยด์
แผลเป็นที่มีขนาดใหญ่เลยขอบของแผล และมักจะนูนขึ้นจากผิวมาก มักมีสีน้ำตาลอมแดง และอาจมีอาการคันร่วมด้วย
วิธีการรักษา
- ฉีดยาเข้าบริเวณคีลอยด์ เดือนละ 1 ครั้ง จนกว่าแผลเป็นคีลอยด์จะราบลง และหากหยุดรักษาไปแล้ว รู้สึกเกิดอาการคัน นั่นคืออาการแสดงของการกลับเป็นซ้ำ แนะนำให้กลับมาเริ่มต้นฉีดอีกครั้ง
- การทำเลเซอร์ กลุ่ม YAG ได้แก่ Laser genesis
- หลีกเลี่ยงการเกา ถู หรือ สัมผัสแผลเป็นคีลอยด์บ่อยๆ
- การทายาลดแผลเป็น
- การแปะแผ่นซิลิโคนที่แผลเป็น